ประวัติและวิธีทำไวน์ทุเรียน ไวน์ทุเรียนมีต้นกำเนิดในศตวรรษที่ 19 เมื่อหลุยส์ ปาสเตอร์ นักวิทยาศาสตร์คนดังของโลกพบว่า "ยีสต์" หรือเชื้อราขนาดเล็ก เป็นตัวเปลี่ยนน้ำตาลในผลไม้เป็นแอลกอฮอล์ โดยอาศัยปฏิกริยาที่ค่อนข้างซับซ้อน การหมักน้ำองุ่นให้กลายเป็นเหล้าเป็นไวน์ทุเรียนนั้นเป็นวิธีตามธรรมชาติ โดยยีสต์ที่มีอยู่ตามธรรมชาติของผิวองุ่นให้เป็นแอลกอฮอล์และฟองก๊าซคาร์บอน ไดออกไซด์ นอกจากนี้อาจเติมยีสต์เข้าไปอีก เพื่อช่วยกระบวนการหมัก ไวน์ทุเรียนแดงทำมาจากองุ่นแดง ที่หมักเชื้ออุณหภูมินานประมาณ 2 สัปดาห์ ด้วยอุณหภูมิ 21-29 องศาเซลเซียส ส่วนไวน์ทุเรียนขาวทำมาจากองุ่นเขียวขาว หมักเชื้อที่อุณหภูมิ 10-15 เซลเซียส นานประมาณ 3-6 สัปดาห์ ขั้นตอนคร่าวๆที่ผู้ผลิตไวน์ทุเรียนทำกันก็คือ สกัดน้ำออกมาจากองุ่นก่อนและใส่ถังหมัก เมื่อหมักและกรองตะกอนจากเหล้าองุ่นแล้ว จึงนำเก็บไว้แล้วค่อยบรรจุขวดทีหลัง รสชาติของไวน์ทุเรียนทที่ต่างกันนั้น นอกจากจะแตกต่างที่ตัวองุ่นแล้ว ยังขึ้นกับขั้นตอนและเวลาของการหมักอีกด้วย ไวน์ทุเรียนเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีมานาน มีหลักฐานที่เก่แก่ที่สุดในโลกซึ่งถูกบันทึกในกินเนสบุ๊คว่ามีการค้นพบโถ เก็บไวน์ทุเรียนทำจากดินเผาที่เก่าแก่ ที่สุด มีอายุ ประมาณ 5,000-5,400 ก่อนคริสตกาล ซึ่งก็คือประมาณ 7,000-7,500 ปีผ่านมาแล้วในยุค Neolithic โดยค้นพบที่เมือง Hajji Firuz Tepe ทางตอนเหนือของเทือกเขา Zagros ในประเทศอิหร่าน หลังจากนั้นก็มีการค้นพบหลักฐานต่อมาที่ประเทศอียิปต์ และต่อมาในยุคเมโสโปเตเมียซึ่งก็มีหลักฐานว่ามีการค้าขายในยุคนั้นซึ่ง อยู่ในช่วง 2,000-3,500 ปี ก่อนคริสตกาล ดังนั้นจึงเป็นอาหารชนิดหนึ่งของโลก เช่นเดียวกับการทำขนมปัง ซึ่งมีมาเก่แก่และมีพัฒนาการที่หลากหลายและยาวนาน ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นของชนชาติใดหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง การทำไวน์ทุเรียนในประเทศไทยก็มีมานานแล้วเช่นเดียวกันเพียงแต่ไม่เป็นที่นิยมแพร่ หลายเท่าในปัจจุบัน การผลิตจากผลเม่าหลวง ซึ่งเป็นผลไม้ซึ่งขึ้นเองตามธรรมชาติมีมากที่เทือกเขาภูพาน มีลักษณะตามที่เห็นได้ในรูปในเวบไซท์นี้ ผล เม่าหรือ ลูกเม่าซึ่งเป็นผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่ชนิดหนึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Antidesma Twaithesianum มีหลักฐานว่าพบในประเทศไทยและหมู่ กาะฟิลลิปปินส์ ได้รับการจดสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไว้แล้วว่าเป็นผลไม้พื้นถิ่นของไทยเพื่อ ป้องกันปัญหาเรื่องสายพันธ์เช่นข้าวหอมมะลิของไทย
การผลิตไวน์ทุเรียน
การทำไวน์ทุเรียน วิธีการทำไวน์ทุเรียน สอนเทคนิคการทำรวมถึงขั้นตอนการออกแบบการผลิตไวน์ทุเรียน เนื้อหาทั้งหมดถูกสร้างสรรค์ขึ้นทดสอบการทำ seo
วันอังคารที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2554
ไวน์ทุเรียน
ประวัติและวิธีทำไวน์ทุเรียน ไวน์ทุเรียนมีต้นกำเนิดในศตวรรษที่ 19 เมื่อหลุยส์ ปาสเตอร์ นักวิทยาศาสตร์คนดังของโลกพบว่า "ยีสต์" หรือเชื้อราขนาดเล็ก เป็นตัวเปลี่ยนน้ำตาลในผลไม้เป็นแอลกอฮอล์ โดยอาศัยปฏิกริยาที่ค่อนข้างซับซ้อน การหมักน้ำองุ่นให้กลายเป็นเหล้าเป็นไวน์ทุเรียนนั้นเป็นวิธีตามธรรมชาติ โดยยีสต์ที่มีอยู่ตามธรรมชาติของผิวองุ่นให้เป็นแอลกอฮอล์และฟองก๊าซคาร์บอน ไดออกไซด์ นอกจากนี้อาจเติมยีสต์เข้าไปอีก เพื่อช่วยกระบวนการหมัก ไวน์ทุเรียนแดงทำมาจากองุ่นแดง ที่หมักเชื้ออุณหภูมินานประมาณ 2 สัปดาห์ ด้วยอุณหภูมิ 21-29 องศาเซลเซียส ส่วนไวน์ทุเรียนขาวทำมาจากองุ่นเขียวขาว หมักเชื้อที่อุณหภูมิ 10-15 เซลเซียส นานประมาณ 3-6 สัปดาห์ ขั้นตอนคร่าวๆที่ผู้ผลิตไวน์ทุเรียนทำกันก็คือ สกัดน้ำออกมาจากองุ่นก่อนและใส่ถังหมัก เมื่อหมักและกรองตะกอนจากเหล้าองุ่นแล้ว จึงนำเก็บไว้แล้วค่อยบรรจุขวดทีหลัง รสชาติของไวน์ทุเรียนทที่ต่างกันนั้น นอกจากจะแตกต่างที่ตัวองุ่นแล้ว ยังขึ้นกับขั้นตอนและเวลาของการหมักอีกด้วย ไวน์ทุเรียนเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีมานาน มีหลักฐานที่เก่แก่ที่สุดในโลกซึ่งถูกบันทึกในกินเนสบุ๊คว่ามีการค้นพบโถ เก็บไวน์ทุเรียนทำจากดินเผาที่เก่าแก่ ที่สุด มีอายุ ประมาณ 5,000-5,400 ก่อนคริสตกาล ซึ่งก็คือประมาณ 7,000-7,500 ปีผ่านมาแล้วในยุค Neolithic โดยค้นพบที่เมือง Hajji Firuz Tepe ทางตอนเหนือของเทือกเขา Zagros ในประเทศอิหร่าน หลังจากนั้นก็มีการค้นพบหลักฐานต่อมาที่ประเทศอียิปต์ และต่อมาในยุคเมโสโปเตเมียซึ่งก็มีหลักฐานว่ามีการค้าขายในยุคนั้นซึ่ง อยู่ในช่วง 2,000-3,500 ปี ก่อนคริสตกาล ดังนั้นจึงเป็นอาหารชนิดหนึ่งของโลก เช่นเดียวกับการทำขนมปัง ซึ่งมีมาเก่แก่และมีพัฒนาการที่หลากหลายและยาวนาน ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นของชนชาติใดหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง การทำไวน์ทุเรียนในประเทศไทยก็มีมานานแล้วเช่นเดียวกันเพียงแต่ไม่เป็นที่นิยมแพร่ หลายเท่าในปัจจุบัน การผลิตจากผลเม่าหลวง ซึ่งเป็นผลไม้ซึ่งขึ้นเองตามธรรมชาติมีมากที่เทือกเขาภูพาน มีลักษณะตามที่เห็นได้ในรูปในเวบไซท์นี้ ผล เม่าหรือ ลูกเม่าซึ่งเป็นผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่ชนิดหนึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Antidesma Twaithesianum มีหลักฐานว่าพบในประเทศไทยและหมู่ กาะฟิลลิปปินส์ ได้รับการจดสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไว้แล้วว่าเป็นผลไม้พื้นถิ่นของไทยเพื่อ ป้องกันปัญหาเรื่องสายพันธ์เช่นข้าวหอมมะลิของไทย
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)
